ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา ด้วยความสามารถในด้านการแสดง รวมไปถึงร้องเพลง, เต้น, เล่นดนตรี,
และเป็นสแตนด์อัพคอมเมดี้ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุค 1950-1970s
นอกจากนี้ Sammy Davis Jr. ยังเป็นผู้ร่วมรณรงค์และลุกขึ้นต่อสู้กับเพื่อสิทธิพลเมืองของคนผิวดำ
กับการกีดกันทางสีผิวเคียงข้างกับผู้นำอย่าง Martin Luther King Jr.
เรียกได้ว่า Sammy Davis Jr. คือหนึ่งในตำนานอเมริกันชนอย่างไม่ต้องสงสัย
ซึ่งชีวิตของเขาเองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน กว่าที่จะมายืนอยู่จุดสูงสุดของอาชีพได้อย่างภาคภูมิ

Sammy Davis Jr. นั้นเป็นบุตรของครอบครัวนักเอนเตอร์เทน และเติบโตมาในย่านฮาร์เลม
ของมหานครนิวยอร์ก ซิตี้ ก่อนที่จะถูกบรรจุเข้ากองทัพในสงครามโลกครั้งที่ 2
และปลดประจำการกลับมาทำงานเอนเตอร์เทนที่เขาถนัด ร่วมกับเพื่อนในวงเก่าๆ
ก่อนที่จะย้ายไปยังฝั่งตะวันตก สถานที่ตามความฝันของบรรดาผู้แสวงหาโอกาสในอาชีพนี้
ซึ่งเขาสามารถพาตัวเองไปรู้จักสนิท และรว่มงานกับ Frank Sinatra ยอดนักร้องเจ้าของเสียงอมตะ
และเป็นหนึ่งในชายที่โด่งดังที่สุดในอเมริกาในขณะนั้น

Frank Sinatra ก็มีไอเดียรวมทีมยอดนักเอนเตอร์เทนแห่งยุค เพื่อเปิดทำการแสดง
ที่เมืองลาสเวกัส เมืองคาสิโนกลางทะเลทรายที่มีเม็ดเงินมหาศาลรออยู่
จนเกิดเป็นกลุ่ม ‘Rat Pack’ กลุ่มเอนเตอร์เทนที่รวมเอาสุดยอดนักร้อง, นักเอนเตอร์เทนในยุคนั้น
อย่าง Frank Sinatra, Sammy Davis Jr., Dean Martin, Peter Lawford และ Joey Bishop
โดยเปิดทำการแสดงในปี 1955 เป็นต้นมา และทำเงินมหาศาลให้กับพวกเขา
ภาพ: กลุ่ม ‘Rat Pack’ และสมาชิกทั้ง 5 คน
นอกเหนือจากนี้ยังรวมไปถึงอิทธิพลต่างๆในเบื้องหลังที่ได้รับ เป็นแรงหนุนในการต่อยอดอาชีพ
ซึ่งพลักดันให้ กลุ่ม ‘Rat Pack’ เองเข้าไปอยู่ในวงการภาพยนตร์ทั้ง 5 คนเลย
และในฮอลลีวู้ดนี่เองที่ทำให้ Sammy Davis Jr. มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีก
เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงที่กลุ่มมาเฟียเริ่มลงทุนทำธุรกิจจอเงินนี่เอง…
ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่ม ‘Rat Pack’ เองนั้นเป็นกลุ่มที่มีมาเฟียหนุนหลังอย่างแน่นหนา
โดยเฉพาะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เป็นเรื่องเปิดตัวของกลุ่ม ‘Rat Pack’
อย่างเรื่อง Ocean’s 11 ในปี 1960 จะขนแกนนำทั้ง 5 คน มารวมทีมในบทนำอย่างคับคั่ง…
และต่างคนก็เล่นบทที่ไม่ได้ไกลตัวกันเลย เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปล้นคาสิโนในลาสเวกัส!
(*เกร็ดความรู้: ต่อมาภาพยนตร์เรื่อง Ocean’s 11 จะถูกนำมารีเมคใหม่ในปี 2001 จนโด่งดัง)
ภาพ: นักแสดงภาพยนตร์เรื่อง Ocean’s 11 ในปี 1960
โดยเฉพาะการหาเสียงให้กับ John F. Kennedy ผู้ลงสมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครในปี 1960 (ที่มีประเด็นเบื้องหลังแตกหักกันอีก…)
ภาพ: Sammy Davis Jr. และภรรยา May Britt
เพราะมีการต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มเหยียดเชื้อชาติ จนเป็นประเด็นสร้างความเกลียดชัง
โดยคู่รักคู่นี้ต่างได้รับจดหมายขู่ฆ่าจำนวนมาก จนต้องจ้างบอดี้การ์ดอยู่พักใหญ่
นอกจากนี้ Sammy Davis Jr. เองยังถูกตัดชื่อออกจากงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
ของประธานาธิบดีอย่าง John F. Kennedy ที่ได้รับเลือกในปีเดียวกัน
เพราะว่าตัวเขาเองช่วยหาเสียงกับแคมเปญของ John F. Kennedy มาตั้งแต่ต้นจากการเปิดเผยมุมมองผ่านหนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับ Sammy Davis Jr.ของ Tracey Davis
ในชื่อหนังสือ ‘Sammy Davis Jr.: A Personal Journey with My Father’
ภาพ: Sammy Davis Jr. และ Richard Nixon
โดยเขาเริ่มสนับสนุน Richard Nixon อดีตคู่แข่งของ John F. Kennedy
เรียกได้ว่าชีวิตของ Sammy Davis Jr. ผ่านมาด้วยเรื่องราวหวานอมขมกลืนอย่างอเมริกันชน
โดยมุกติดตัวของเขาที่โด่งดังคือ ในระหว่างการเล่นกอล์ฟกับปธน.
เขาถูกถามโดยเพื่อนคอมเมเดี้ยนด้วยกัน เกี่ยวกับแต้มต่อของกอล์ฟในรอบนั้น
และเขาดันตอบว่า ”พูดถึงแต้มต่อนะ ผมเป็นครึ่งผสมระหว่างคนดำ-ยิวที่มีตาเดียว”
จนกลายเป็นคำคมประจำตัวของเขาไปโดยปริยาย

เฉนกเช่นเดียวกับเพลง ‘My Way’ ที่เป็นเพลงแห่งชีวิต ของเพื่อนรักอย่าง Frank Sinatra
นั่นคือเพลง ‘Mr. Bojangles’ ที่เกี่ยวกับนักดนตรีสัญจรแห่งเมืองนิวออร์ลีนส์
ซึ่งชาวอเมริกันทุกคนต่างรู้จัก Sammy Davis Jr. ผ่านการร้องและเต้นผ่านเพลงนี้
(อ่านเรื่องราวของเพลง Mr. Bojangles ได้ที่: aboutfriday.com/mr-bojangles)
ย่านสุดหรูแห่งเมืองแคลิฟอร์เนีย ด้วยโรคมะเร็งช่องปาก เนื่องจากการสูบบุหรี่จัดของคนยุคนั้น
ปิดฉากตำนานนักเอนเตอร์เทนที่ดีที่สุดในอเมริกาไว้พียง 64 ปี…

เมื่อชายผิวดำที่สูงเพียง 165 เซนติเมตร สร้างตนเองจนเป็นหนึ่งในอเมริกันชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ด้วยชื่อเสียงแห่งนักสร้างความสุข และนักเคลื่อนไหวทางสังคม เพื่อสิทธิของคนผิวดำ
ด้วยความสามารถที่ทำลายกำแพงเชื้อชาติและผิวสี ทุกท่านครับเขาคือ Sammy Davis Jr. ครับ!
เขียนและเรียบเรียงโดย: https://www.aboutfriday.com ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก: https://www.dailymail.co.uk/, https://en.wikipedia.org/ ขอบคุณภาพประกอบจาก: imdb.com, oralcancerfoundation.org, reddit.com