‘หนี้บัตรเครตดิต’ คือหนี้จากการใช้เงินจากอนาคต แต่หากคุณมีปัญหาการเงินเริ่มจะตึงขึ้น
และขาดความยืดหยุ่น (ที่อาจจะเกิดจากการใช้อย่างไม่รอบคอบในช่วงที่ผ่านมา)
ทำให้ผู้ที่มียอดเงินใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่างๆ เริ่มมีหนี้ที่ต้องจ่ายในอนาคตที่สูงขึ้น
ทำให้เริ่มนำไปสู่สภาพคล่องทางการเงิน และเริ่มขาดการชำระหนี้ตามกำหนด
อาจจะถึงขั้นที่ต้องปล่อยให้เป็นหนี้เน่าเสีย และแย่ที่สุดคือการ ‘เสียประวัติทางการเงิน’
หากการค้างชำระหนี้ถูกรายไปที่ยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร…
และขาดความยืดหยุ่น (ที่อาจจะเกิดจากการใช้อย่างไม่รอบคอบในช่วงที่ผ่านมา)
ทำให้ผู้ที่มียอดเงินใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตต่างๆ เริ่มมีหนี้ที่ต้องจ่ายในอนาคตที่สูงขึ้น
ทำให้เริ่มนำไปสู่สภาพคล่องทางการเงิน และเริ่มขาดการชำระหนี้ตามกำหนด
อาจจะถึงขั้นที่ต้องปล่อยให้เป็นหนี้เน่าเสีย และแย่ที่สุดคือการ ‘เสียประวัติทางการเงิน’
หากการค้างชำระหนี้ถูกรายไปที่ยังบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร…
จะเรียกได้ว่าบัตรเครดิตเหล่านี้แหละ ที่ทำให้ความอยากได้, อยากมี จนใช้เงินจนลืมตัว
ไม่ว่าจะเป็นซื้อของใช้ที่ต้องการอย่างเช่นสมาร์ทโฟน, สินค้าแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
หรือแม้กระทั่งใช้จ่ายแทนเงินสด ไม่ว่าจะเป็นค่ากิน-เที่ยว-ช้อป
เพราะการใช้บัตรเครดิตมักจะมาพร้อมกับโปรโมชั่นเสนอจากร้านค้าต่างๆโดยเฉพาะส่วนลด
ทำให้เกิดการใช้เงินเกินตัวโดยที่ไม่ทันระวัง กลายเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เพื่อนๆหลายคน
ตกเป็นหนี้ของบัตรเครดิตกันมากมาย ซึ่งวันนี้พวกเรามีวิธีมาแนะนำเพื่อนๆ
เกี่ยวกับ ‘วิธีปลดหนี้บัตรเครดิต’ ในฉบับง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้ (ใช้เองก็ชดเอง)
โดยจะมาแนะนำกันทั้งหมด 10 วิธี ซึ่งใครที่เป็นหนี้และพร้อมที่จะหาทางออกด้วยตัวเอง
ก็มาลองทำตามวิธีที่ทางเราได้ขอเสนอให้เพื่อนๆ 10 วิธีดังนี้…
ไม่ว่าจะเป็นซื้อของใช้ที่ต้องการอย่างเช่นสมาร์ทโฟน, สินค้าแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ
หรือแม้กระทั่งใช้จ่ายแทนเงินสด ไม่ว่าจะเป็นค่ากิน-เที่ยว-ช้อป
เพราะการใช้บัตรเครดิตมักจะมาพร้อมกับโปรโมชั่นเสนอจากร้านค้าต่างๆโดยเฉพาะส่วนลด
ทำให้เกิดการใช้เงินเกินตัวโดยที่ไม่ทันระวัง กลายเป็นปัญหาหลักที่ทำให้เพื่อนๆหลายคน
ตกเป็นหนี้ของบัตรเครดิตกันมากมาย ซึ่งวันนี้พวกเรามีวิธีมาแนะนำเพื่อนๆ
เกี่ยวกับ ‘วิธีปลดหนี้บัตรเครดิต’ ในฉบับง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้ (ใช้เองก็ชดเอง)
โดยจะมาแนะนำกันทั้งหมด 10 วิธี ซึ่งใครที่เป็นหนี้และพร้อมที่จะหาทางออกด้วยตัวเอง
ก็มาลองทำตามวิธีที่ทางเราได้ขอเสนอให้เพื่อนๆ 10 วิธีดังนี้…
1. ตรวจสอบยอดหนี้ของบัตรเครดิต
บัตรเครดิตของคุณมีกันกี่ใบ? แล้วมียอดหนี้เท่าไหร่? คำถามนี้ใครหลายคนอาจจะตอบได้บ้าง
ไม่กล้าตอบบ้าง? ไม่เป็นไรครับ เก็บเอาไว้ในใจ แล้วคำนวณดูว่า ‘ทั้งหมดเป็นจำนวนกี่บาท?’
ซึ่งควรตรวจสอบตัวเลขให้แน่นอน และควรเป็นเดือนล่าสุด
อีกทั้งตรวจสอบเรื่องดอกเบี้ยต่างๆว่าขึ้นหรือลดลงอย่างไร? มีกำหนดชำระเมื่อไหร่?
ถ้าหากว่ารวบรวมได้ทั้งหมดแล้ว เราก็มาต่อกันที่การคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายต่างๆกันต่อ
บัตรเครดิตของคุณมีกันกี่ใบ? แล้วมียอดหนี้เท่าไหร่? คำถามนี้ใครหลายคนอาจจะตอบได้บ้าง
ไม่กล้าตอบบ้าง? ไม่เป็นไรครับ เก็บเอาไว้ในใจ แล้วคำนวณดูว่า ‘ทั้งหมดเป็นจำนวนกี่บาท?’
ซึ่งควรตรวจสอบตัวเลขให้แน่นอน และควรเป็นเดือนล่าสุด
อีกทั้งตรวจสอบเรื่องดอกเบี้ยต่างๆว่าขึ้นหรือลดลงอย่างไร? มีกำหนดชำระเมื่อไหร่?
ถ้าหากว่ารวบรวมได้ทั้งหมดแล้ว เราก็มาต่อกันที่การคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายต่างๆกันต่อ
2. คำนวณบัญชีรายรับรายจ่าย
ทุกบ้าน ทุกครอบครัว ควรต้องจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่ายเอาไว้ (ควรทำแม้ไม่เป็นหนี้อะไร)
เพื่อเป็นการคำนวณว่าการใช้เงินแต่ละเดือน แต่ละวัน นั้นได้ใช้หมดไปเท่าไหร่
รายได้ที่มีเพียงพอหรือเปล่า? ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ใช้จ่ายในครัวเรื่อง ต่างๆ
ก็ควรจะต้องจัดเตรียมเอาไว้ว่าแต่ละเดือนนั้นหมดไปเท่าไหร่ สัมพันธ์กันหรือไม่?
กับรายได้ที่ได้รับในแต่ละเดือน หรือแต่ละวัน
ถ้าหากว่ามียอดการใช้จ่ายมากเกินไป ก็ควรที่จะประหยัดให้มากยิ่งขึ้น
หรือลดค่าใช้จ่ายลงในสิ่งที่ไม่จำเป็นเพื่อลดภาระหนี้ไม่ให้เป็นดินพอกหางหมู
ทุกบ้าน ทุกครอบครัว ควรต้องจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่ายเอาไว้ (ควรทำแม้ไม่เป็นหนี้อะไร)
เพื่อเป็นการคำนวณว่าการใช้เงินแต่ละเดือน แต่ละวัน นั้นได้ใช้หมดไปเท่าไหร่
รายได้ที่มีเพียงพอหรือเปล่า? ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าน้ำ ค่าไฟ ใช้จ่ายในครัวเรื่อง ต่างๆ
ก็ควรจะต้องจัดเตรียมเอาไว้ว่าแต่ละเดือนนั้นหมดไปเท่าไหร่ สัมพันธ์กันหรือไม่?
กับรายได้ที่ได้รับในแต่ละเดือน หรือแต่ละวัน
ถ้าหากว่ามียอดการใช้จ่ายมากเกินไป ก็ควรที่จะประหยัดให้มากยิ่งขึ้น
หรือลดค่าใช้จ่ายลงในสิ่งที่ไม่จำเป็นเพื่อลดภาระหนี้ไม่ให้เป็นดินพอกหางหมู

3. ใช้จ่ายให้สมดุลกับยอดหนี้
แน่นอนครับว่าตามหลักสากล (ที่เป็นไปได้ในแนวทางปฏิบัติ)
ถ้าหากอยากจะอยู่ให้รอดในแต่ละเดือน ยอดหนี้ต่างๆจะต้องไม่เกิน 40% ของรายได้
ซึ่งคิดง่ายๆ ถ้าหากเพื่อนๆมีรายได้เดือนละ 1 หมื่นบาท ยอดหนี้จะต้องไม่เกิน 4 พันบาทต่อเดือน
ถ้าหากใครเกินจากนี้แล้วล่ะก็ ต้องหารายได้เสริม หรือกู้สินเชื่อมาปิดหนี้กันด่วนๆเลย
(สินเชื่ออาจจะถูกมองว่ากู้หนี้มาปิดหนี้ แต่ก็ยังมีความยืดหยุ่นกว่ามาก
แนะนำให้เพื่อนๆรออ่านการแก้ปัญหานี้ที่ข้อ 5 )
แน่นอนครับว่าตามหลักสากล (ที่เป็นไปได้ในแนวทางปฏิบัติ)
ถ้าหากอยากจะอยู่ให้รอดในแต่ละเดือน ยอดหนี้ต่างๆจะต้องไม่เกิน 40% ของรายได้
ซึ่งคิดง่ายๆ ถ้าหากเพื่อนๆมีรายได้เดือนละ 1 หมื่นบาท ยอดหนี้จะต้องไม่เกิน 4 พันบาทต่อเดือน
ถ้าหากใครเกินจากนี้แล้วล่ะก็ ต้องหารายได้เสริม หรือกู้สินเชื่อมาปิดหนี้กันด่วนๆเลย
(สินเชื่ออาจจะถูกมองว่ากู้หนี้มาปิดหนี้ แต่ก็ยังมีความยืดหยุ่นกว่ามาก
แนะนำให้เพื่อนๆรออ่านการแก้ปัญหานี้ที่ข้อ 5 )
4. ควรหยุดใช้บัตรเครดิต
มีบัตรเครดิตก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องสะดวกสบายเสมอไป เพราะบางทีรูดแล้วมันไม่ปรืดเหมือนโฆษณา
และถ้ามีหนี้กองโตแล้วก็ควรจะหยุดใช้งาน เพราะการใช้จ่ายบัตรเครดิตในแต่ละครั้งนั้น
ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ ยิ่งสะสมไปมากเท่านั้น บัตรเครดิตไม่ควรใช้ให้ติดจนเป็นนิสัย
เพราะจะทำให้หนี้เก่าๆที่ยังค้างอยู่เพิ่มสมทบไปกับหนี้ใหม่ได้
ถ้ารู้ตัวว่ารูดไปเยอะ…ก็หันมาเปลี่ยนใช้เงินสดแทนจะดีกว่า
และถ้ามีหนี้กองโตแล้วก็ควรจะหยุดใช้งาน เพราะการใช้จ่ายบัตรเครดิตในแต่ละครั้งนั้น
ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ ยิ่งสะสมไปมากเท่านั้น บัตรเครดิตไม่ควรใช้ให้ติดจนเป็นนิสัย
เพราะจะทำให้หนี้เก่าๆที่ยังค้างอยู่เพิ่มสมทบไปกับหนี้ใหม่ได้
ถ้ารู้ตัวว่ารูดไปเยอะ…ก็หันมาเปลี่ยนใช้เงินสดแทนจะดีกว่า
5. ปรึกษาธนาคาร ด้วยการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
มีอีกวิธีที่ปลดหนี้บัตรได้เร็วก็คือปรึกษาธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่นๆ
ด้วยการกู้สินเชื่อเพื่อมาปิดยอดบัตรเครดิต เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต’
ตัวอย่างเช่นธนาคารกสิกรไทย ที่ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่น่าสนใจ
โดยสามารถกู้เงินเป็นก้อนได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ โดยมีดอกเบี้ยถูกมากเพียงต่ำสุด 19% ต่อปี
สูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี รวมหนี้เป็นก้อนเดียวจะได้ไม่หนักเรื่องดอกเบี้ยนั่นเอง
โดยพื่อนๆสามารถคลิกติดตามรีไฟแนนซ์บัตรของธนาคารอื่นๆกันต่อได้ที่นี่:คลิก
มีอีกวิธีที่ปลดหนี้บัตรได้เร็วก็คือปรึกษาธนาคาร หรือสถาบันการเงินอื่นๆ
ด้วยการกู้สินเชื่อเพื่อมาปิดยอดบัตรเครดิต เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘การรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต’
ตัวอย่างเช่นธนาคารกสิกรไทย ที่ตอนนี้มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่น่าสนใจ
โดยสามารถกู้เงินเป็นก้อนได้สูงสุด 5 เท่าของรายได้ โดยมีดอกเบี้ยถูกมากเพียงต่ำสุด 19% ต่อปี
สูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี รวมหนี้เป็นก้อนเดียวจะได้ไม่หนักเรื่องดอกเบี้ยนั่นเอง
โดยพื่อนๆสามารถคลิกติดตามรีไฟแนนซ์บัตรของธนาคารอื่นๆกันต่อได้ที่นี่:คลิก
6. เลือกจ่ายขั้นต่ำ เพื่อรักษาเครดิต
เพราะว่าการใช้จ่ายในแต่ละเดือน มนุษย์เงินเดือน หรือกลุ่มคนทำธุรกิจจะทราบดีใช่ไหมล่ะครับ
ว่ามันค่อนข้างที่จะควบคุมการใช้เงินยาก ซึ่งในจุดนี้ก็มีข้อดีด้วยนะครับ…
เพราะจะทำให้ไม่เสียเครดิตการชำระเงินกับบัตรเครดิต
โดยจะทำให้การกู้รีไฟแนนซ์, การอนุมัติการกู้ต่างๆ ก็จะไม่มีมลทินติดตัว
ถ้าหากผ่านไปได้ก็สามารถทำเรื่องกู้สินเชื่อต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์
สินเชื่อบ้านทุกธนาคาร ยังไงก็ผ่านฉลุย
เพราะว่าการใช้จ่ายในแต่ละเดือน มนุษย์เงินเดือน หรือกลุ่มคนทำธุรกิจจะทราบดีใช่ไหมล่ะครับ
ว่ามันค่อนข้างที่จะควบคุมการใช้เงินยาก ซึ่งในจุดนี้ก็มีข้อดีด้วยนะครับ…
เพราะจะทำให้ไม่เสียเครดิตการชำระเงินกับบัตรเครดิต
โดยจะทำให้การกู้รีไฟแนนซ์, การอนุมัติการกู้ต่างๆ ก็จะไม่มีมลทินติดตัว
ถ้าหากผ่านไปได้ก็สามารถทำเรื่องกู้สินเชื่อต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อรถยนต์
สินเชื่อบ้านทุกธนาคาร ยังไงก็ผ่านฉลุย
7. หารายได้เสริมจากเดิม
นอกจากงานประจำที่ทำแล้ว ก็ต้องมองหาอาชีพเสริมกันดูบ้าง
ซึ่งหลายๆคนก็อาจจะมีขายของออนไลน์, รับจ้างทั่วไป เพื่อมาเติมเต็มเสริมในส่วนที่ขาด
และยังสามารถมาช่วยเจือจุนชำระหนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นในแต่ละเดือนอาจจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
(หากมีช่องทางดีๆอาจจะรุ่งยิ่งกว่างานประจำซะอีก)
ซึ่งหากใครไม่มีเวลาตรงส่วนนี้ก็ยังมีอีก 3 วิธีช่วยเพื่อนๆครับ
นอกจากงานประจำที่ทำแล้ว ก็ต้องมองหาอาชีพเสริมกันดูบ้าง
ซึ่งหลายๆคนก็อาจจะมีขายของออนไลน์, รับจ้างทั่วไป เพื่อมาเติมเต็มเสริมในส่วนที่ขาด
และยังสามารถมาช่วยเจือจุนชำระหนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นในแต่ละเดือนอาจจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
(หากมีช่องทางดีๆอาจจะรุ่งยิ่งกว่างานประจำซะอีก)
ซึ่งหากใครไม่มีเวลาตรงส่วนนี้ก็ยังมีอีก 3 วิธีช่วยเพื่อนๆครับ
8. ลดความอยากได้อยากมี
การเป็นหนี้ของหลายๆคนเกิดจากความอยากได้-อยากมี ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน
สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ซึ่งตามหลักความจริงแล้วต้องมองถึงความจำเป็นสำคัญ
และควรใช้เงินไปกับปัจจัย 4 (อาหาร, ที่อยู่อาศัย, เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค)
รวมทั้งก็ต้องตรวจสอบเรื่องการเงินของตัวเราเองด้วย
เพราะตัณหาเรื่องความอยากได้อยากมีไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรนัก หากยังบริหารเงินเป็น!
การเป็นหนี้ของหลายๆคนเกิดจากความอยากได้-อยากมี ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน
สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ซึ่งตามหลักความจริงแล้วต้องมองถึงความจำเป็นสำคัญ
และควรใช้เงินไปกับปัจจัย 4 (อาหาร, ที่อยู่อาศัย, เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค)
รวมทั้งก็ต้องตรวจสอบเรื่องการเงินของตัวเราเองด้วย
เพราะตัณหาเรื่องความอยากได้อยากมีไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรนัก หากยังบริหารเงินเป็น!

9. ออมเงินให้เป็นนิสัย
เพราะเงินที่ออมเอาไว้นี่ล่ะครับ จะเป็นเงินในส่วนนี้ช่วยเหลือเวลาเดือดร้อนเรื่องเงินได้
ดังนั้นควรทำให้ติดเป็นนิสัยกันเอาไว้เลยครับ ค่อยๆเก็บออมทีละน้อย
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากออมเข้าบัญชีออมทรัพย์ หรือฝากประจำทุกๆเดือน
ก็จะมีดอกเบี้ยจากธนาคารเข้าสู่บัญชี ทำให้การเก็บออมนั้น มีแต่ได้กับได้
เช่นบัญชีเงินฝากประจำแบบ 6 เดือน ของธนาคารออมสิน:คลิก
ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.15% ต่อปีเลยทีเดียว
(แต่ขอแนะนำว่าควรฝากระยะยาวกว่านี้ในระดับ 12 เดือนขึ้นไป แถมยังได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น)
เพราะเงินที่ออมเอาไว้นี่ล่ะครับ จะเป็นเงินในส่วนนี้ช่วยเหลือเวลาเดือดร้อนเรื่องเงินได้
ดังนั้นควรทำให้ติดเป็นนิสัยกันเอาไว้เลยครับ ค่อยๆเก็บออมทีละน้อย
ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากออมเข้าบัญชีออมทรัพย์ หรือฝากประจำทุกๆเดือน
ก็จะมีดอกเบี้ยจากธนาคารเข้าสู่บัญชี ทำให้การเก็บออมนั้น มีแต่ได้กับได้
เช่นบัญชีเงินฝากประจำแบบ 6 เดือน ของธนาคารออมสิน:คลิก
ที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 1.15% ต่อปีเลยทีเดียว
(แต่ขอแนะนำว่าควรฝากระยะยาวกว่านี้ในระดับ 12 เดือนขึ้นไป แถมยังได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น)
10. อย่าท้อ เมื่อเป็นหนี้
เราต้องทำความเข้าใจกับหนี้ที่เราต้องใช้ในแต่ละเดือนครับ แนวคิดง่ายๆคือ ‘โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี’
อยากได้ก็ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่างวดรถ, ค่างวดมือถือ ถ้าคิดจะผ่อนผันตามสัญญา ก็จะต้องทำให้ได้ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่เป็นหนี้ ไม่ว่าจะเยอะหรือว่าน้อย
ห้ามท้อในการจ่ายหนี้เด็ดขาด แม้จะมีบางครั้งก็มีคิดท้อกันบ้างก็ตาม
เพราะการปล่อยให้เป็นหนี้เสียอาจจะถึงขั้นเสียเครดิตทางการเงิน และขาดสภาพคล่องต่างๆ
ซึ่งล้วนเป็นปัญหาในอนาคตทั้งนั้น อย่าเผลอไปรับคำแนะนำผิดๆจากการละเลยหนี้ทั้งหลาย
ที่ถูกแนะนำกันอย่างผิดๆ ทั้งรอการถูกฟ้องจากธนาคาร
(แต่ถ้าหากหมดหนทางจริงๆก็ยังมีหนทางแก้ไขอยู่) กระนั้นขอให้แนะนำทำตาม 10 วิธีข้างต้น
เพราะเชื่อได้เถอะว่าหากปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้แล้ว ปัญหาเรื่อง ‘หนี้บัตรเครดิต’ จะหมดไปเลย!
เราต้องทำความเข้าใจกับหนี้ที่เราต้องใช้ในแต่ละเดือนครับ แนวคิดง่ายๆคือ ‘โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี’
อยากได้ก็ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่างวดรถ, ค่างวดมือถือ ถ้าคิดจะผ่อนผันตามสัญญา ก็จะต้องทำให้ได้ พวกเราขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่เป็นหนี้ ไม่ว่าจะเยอะหรือว่าน้อย
ห้ามท้อในการจ่ายหนี้เด็ดขาด แม้จะมีบางครั้งก็มีคิดท้อกันบ้างก็ตาม
เพราะการปล่อยให้เป็นหนี้เสียอาจจะถึงขั้นเสียเครดิตทางการเงิน และขาดสภาพคล่องต่างๆ
ซึ่งล้วนเป็นปัญหาในอนาคตทั้งนั้น อย่าเผลอไปรับคำแนะนำผิดๆจากการละเลยหนี้ทั้งหลาย
ที่ถูกแนะนำกันอย่างผิดๆ ทั้งรอการถูกฟ้องจากธนาคาร
(แต่ถ้าหากหมดหนทางจริงๆก็ยังมีหนทางแก้ไขอยู่) กระนั้นขอให้แนะนำทำตาม 10 วิธีข้างต้น
เพราะเชื่อได้เถอะว่าหากปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้แล้ว ปัญหาเรื่อง ‘หนี้บัตรเครดิต’ จะหมดไปเลย!
และนี่คือ ’10 วิธีปลดหนี้บัตรเครดิตแบบง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้’
ซึ่งพวกเราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนสามารถทำได้แน่นอน
ดังนั้นแล้วตอนนี้ถ้าหากว่าใครเป็นหนี้ ก็อย่าลืมรวบรวมข้อมูล แล้วจัดการตามแผนตามขั้นตอน
พวกเราหวังว่าบทความนี้จะเป็นสาระดีๆ ให้เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ที่กำลังมองหาข้อมูลสำคัญ
‘วิธีการปลดหนี้บัตรเครดิต’
ถ้าชอบก็อย่าลืม กด Like กด Share ส่งต่อบทความดีๆแบบนี้ให้พวกเราด้วยนะครับ
ซึ่งพวกเราเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนสามารถทำได้แน่นอน
ดังนั้นแล้วตอนนี้ถ้าหากว่าใครเป็นหนี้ ก็อย่าลืมรวบรวมข้อมูล แล้วจัดการตามแผนตามขั้นตอน
พวกเราหวังว่าบทความนี้จะเป็นสาระดีๆ ให้เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ที่กำลังมองหาข้อมูลสำคัญ
‘วิธีการปลดหนี้บัตรเครดิต’
ถ้าชอบก็อย่าลืม กด Like กด Share ส่งต่อบทความดีๆแบบนี้ให้พวกเราด้วยนะครับ
เรียบเรียงโดย: http://imoney.in.th/, https://aboutfriday.com เครดิตข้อมูลจาก: http://imoney.in.th/ ขอบคุณภาพประกอบจาก: https://pixabay.com/th/, https://pixabay.com/th/, https://pixabay.com/th/